พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีความห่วงใยชีวิตเป็นอยู่ของราษฎร บริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน
อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร จึงได้พระราชทานพระราชดำริ เกี่ยวกับงานพัฒนาแหล่งน้ำ
และงานพัฒนาอาชีพของราษฎรหลายครั้ง สรุปได้ดังต่อไปนี้
เมื่อวันที่
10 มิถุนายน 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำรัสกับพลเอกเทียนชัย
จันมุกดา รองสมุหราชองครักษ์ ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
เกี่ยวกับงานชลประทาน สรุปความว่า ให้กรมชลประทานตรวจสอบสภาพพื้นที่
สภาพการถือครองที่ดิน สภาพน้ำท่าในลำห้วยสายต่างๆ ตลอดจนสภาพการเพาะปลูกและการทำกินของราษฎร
ตำบลกกตูม อำเภอ ดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาศึกษา
และก่อสร้างแหล่งน้ำช่วยเหลือการเพาะปลูก และการอุปโภคบริโภคของราษฎรบริเวณดังกล่าว
และเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรในท้องถิ่นอย่างแท้จริง ส่วนราชการต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง ควรร่วมกันดำเนินการให้เกิดการจัดการในรูปแบบเดียวกับสหกรณ์การเกษตรหุบกระพง
ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตามที่ทรงวางโครงการในแผนที่
มาตราส่วน 1: 50,000 ดังนี้
1.
โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยพุง เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านคำผักกูด
และบริเวณใกล้เคียง
2.
โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านคำผักกูด เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านปากช่อง
และบริเวณใกล้เคียง
3.
โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านสานแว้ (ห้วยด่าน) เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรที่มีที่ทำกินทางด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ
4.
โครงอ่างเก็บน้ำห้วยหอย เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านปากช่อง และบริเวณใกล้เคียง
5.
โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยพุ เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านนาหินกอง และบริเวณใกล้เคียง
เมื่อวันที่
5 กรกฎาคม 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทาน
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ตำบล กกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร แก่เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน
ณ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร สรุปได้ดังนี้
ควรเปิดโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน
เนื้อที่ประมาณ 102,000 ไร่ โดยมีคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการต่างๆ
และควรกำหนดพื้นที่โครงการฯ ออกเป็นเขตเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ
ที่เหมาะสม คือ เขตพัฒนาอาชีพเสริม เขตพัฒนาการเกษตร และเขตอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า
เขตที่
1 เป็นเขตพัฒนาอาชีพเสริม ได้แก่ พื้นที่ทางตอนบนบริเวณบ้านคำผักกูด
บ้านสานแว้ ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งปัจจุบันมีอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่ได้ก่อสร้างไว้แล้ว
และที่กำลังก่อสร้าง ปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำต่างๆ เหล่านั้นมีไม่มากคงไม่เพียงพอส่งช่วยเหลือให้ราษฎรใช้ทำการเพาะปลูกได้อย่างเต็มที่
ประกอบกับในปัจจุบันที่บ้านสานแว้ เป็นที่ตั้งศูนย์ศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ จึงควรกำหนดเขตที่ 1 เป็นพื้นที่พัฒนาอาชีพเสริม เนื้อที่รวมทั้งสิ้นประมาณ
4,000 ไร่
เขตที่
2 เป็นเขตพัฒนาการเกษตร ได้แก่ พื้นที่ต่อจากเขตที่ 1 บริเวณบ้านปากช่อง
และบ้านนาหินกอง ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร กรมชลประทานควรเร่งพิจารณาและก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหอย
และโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยพุ โดยกำหนดขนาดความจุอ่างให้เก็บน้ำให้ได้มากที่สุด
จะทำให้มีน้ำเพียงพอส่งช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งสิ้นประมาณ
4,300 ไร่ ได้อย่างเต็มที่ พื้นที่เขตนี้ควรพิจารณาจัดแบ่งเป็นแปลงๆ
ขนาดตามความเหมาะสม เพื่อให้ราษฎรในเขตโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน
ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่ทำกินได้เข้าอยู่อาศัย โดยมีการจัดการในลักษณะเดียวกับสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง
อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
เขตที่
3 เป็นเขตพัฒนาการเกษตร ได้แก่ พื้นที่บริเวณบ้านแก่งนาง ตำบลกกตูม
อำเภอ ดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งปัจจุบันได้รับน้ำทำการเกษตรจากโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยทาอยู่แล้ว
และพื้นที่ที่จะได้รับน้ำจากโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ เมื่องานก่อสร้างนี้แล้วเสร็จ
เขตที่
4 เป็นเขตอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า |